สถานการณ์ปัญหา(Problem-based learning)
ภายหลังที่รัฐบาลได้จัดการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่
"การยกระดับคุณภาพประชากรของประเทศให้สูงขึ้น คือ ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด ที่ต้องส่งเสริมและพัฒนาให้เต็มตามศักยภาพ ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การประยุกต์ความรู้ และการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และริเริ่มสร้างสรรค์ มีความสามารถในการแก้ปัญหา ตลอดจนรู้จักการทำงานเป็นหมู่คณะ"
มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ ที่ผู้เรียนสามารถเข้าถึงได้อย่างหลากหลาย สามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ และเหมาะสมกับยุคแห่งข้อมูลสารสนเทศที่มีอยู่อย่างมากมาย รวมไปถึงการทำให้การเรียนรู้นั้นเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งยังเพื่อเป็นการเตรียมพัฒนาผู้เรียน ให้มีคุณลักษณะที่เหมาะสมกับสังคมยุคโลกาภิวัตน์
ในฐานะที่ท่านจะเป็นครูพันธ์ใหม่ ท่านจะต้องปฏิบัติภารกิจต่อไปนี้
ภารกิจ
1. วิเคราะห์บทบาทและความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาการศึกษาตามแนวทางปฏิรูปการศึกษา
2. วิเคราะห์หาวิธีการที่จะประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
3. ให้ท่านพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ ตามบริบทของโรงเรียนที่กำหนดให้ต่อไปนี้ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบการอธิบาย
โรงเรียนบ้านหนองงูเห่า เป็นโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลในถิ่นธุระกันดาร โรงเรียนมีคอมพิวเตอร์สามเครื่อง มีโทรทัศน์ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
โรงเรียนมัธยมไฮโซเบตง เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเมือง มีความพร้อมทางด้านสื่อ เทคโนโลยี มีห้องคอมพิวเตอร์ มีระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง แต่ครูมีไม่เพียงพอเนื่องจากย้ายหนีเหตุการณ์ความไม่สงบ
สรุปภารกิจ
1. วิเคราะห์บทบาทและความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาการศึกษาตามแนวทางปฏิรูปการศึกษา
ตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษาที่จะให้ผู้เรียนทุกคนเรียนรู้และพัฒนาตนเองตามศักยภาพ ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การประยุกต์ความรู้ คิดวิเคราะห์ และริเริ่มสร้างสรรค์ แก้ปัญหา ตลอดจนรู้จักการทำงานเป็นหมู่คณะ โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ สามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา เทคโนโลยีสารสนเทศถือว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากในการศึกษารูปแบบนี้ กล่าวคือ เทคโนโลยีสารสนเทศจะพัฒนากิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ประกอบด้วย Communications media, การสื่อสารโทรคมนาคม (Telecoms) และเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) มีผลิตภัณฑ์หลักที่มากไปกว่าโทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ เช่น แฟกซ์ อินเทอร์เน็ต อีเมล์ ทำให้สารสนเทศเผยแพร่หรือกระจายออกไปในที่ต่างๆ ได้สะดวก เมื่อมีศักยภาพในการเข้าเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทร์เน็ต ก็ทำให้สามารถสืบค้นข้อมูลจากทุกที่และทุกเวลาได้ ซึ่งก็เหมือนกับการมีแหล่งความรู้ขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าแล้ว
จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทที่สำคัญมาก มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเรียนรู้ การศึกษา ซึ่งผู้เรียนสามารถสืบค้นหาความรู้ด้วยตนเอง เพื่อมาใช้ในการฝึกทักษะ ประกอบเหตุผลในการคิด การวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การสร้างโอกาสให้แก่ผู้เรียนเข้าถึงแหล่งข้อมูล แหล่งความรู้ได้มากและสะดวกขึ้น ดังนั้นการปฏิรูปการศึกษาจึงต้องใช้ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในการจัดการเรียนรู้ ถือว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะใช้ในการปฏิรูปการศึกษา
2. วิเคราะห์หาวิธีการที่จะประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียน แทนที่ครูจะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญเพียงอย่างเดียว ส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการศึกษา คือการสร้างโอกาสให้แก่ผู้เรียนเข้าถึงแหล่งข้อมูล แหล่งความรู้ได้มากและสะดวกขึ้น ดังนั้นการปฏิรูปการศึกษาจึงต้องใช้ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในการจัดการเรียนรู้
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดระบบการเรียนการสอนทางไกล ซึ่งผู้เรียนและผู้สอนสามารถตอบโต้กันได้แม้ว่าจะอยู่ห่างกัน ผู้เรียนสามารถส่งการบ้านทางอินเทอร์เน็ตได้ ครูสามารถตรวจงานให้คะแนนได้ แม้กระทั่งการชี้แนะด้วยไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือใช้ระบบกระดานข่าว (Bulletin Board System)
การนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสามารถใช้ในด้านการศึกษา จะช่วยพัฒนาการเรียนรู้และอำนวยความสะดวกในด้านการสอนและแหล่งการเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ไม่มีข้อจากัดในด้านสถานที่ การสอนโดยใช้ระบบสารสนเทศจะจัดการเรียนรู้ได้ตามความแตกต่างของผู้เรียน ระบบการเรียนรู้ที่ใช้ในด้านการศึกษามีหลายระบบ เช่น E-learning, e – Book, e – Library และ e – Classroom
การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศในการเรียนรู้เป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาที่ทำให้ผู้เรียนเรียนรู้โดยไม่มีข้อจากัดในประเด็นต่าง ๆ เพียงแต่ผู้เรียนรู้ต้องศึกษาวิธีการเพื่อเข้าสู่ระบบที่ต้องการให้ถูกต้อง
3. ให้ท่านพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ ตามบริบทของโรงเรียนที่กำหนดให้ต่อไปนี้ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบการอธิบาย
โรงเรียนบ้านหนองงูเห่า เป็นโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลในถิ่นธุระกันดาร โรงเรียนมีคอมพิวเตอร์สามเครื่อง มีโทรทัศน์ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
ในกรณีโรงเรียนที่ไม่มีความพร้อมทางด้านสื่อและเทคโนโลยี อาจเลือกใช้ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นการนำเอาเทคโนโลยี รวมกับการออกแบบโปรแกรมการสอน มาใช้ช่วยสอน ซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่าบทเรียน CAI (Computer - Assisted Instruction) การจัดโปรแกรมการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ในปัจจุบันมักอยู่ในรูปของสื่อประสม (Multimedia) ซึ่งหมายถึงนำเสนอได้ทั้งภาพ ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหวฯลฯ โปรแกรมช่วยสอนนี้เหมาะกับการศึกษาด้วยตนเอง และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถโต้ตอบ กับบทเรียนได้ตลอด จนมีผลป้อนกลับเพื่อให้ผู้เรียนรับรู้บทเรียนได้อย่างถูกต้อง และเข้าใจในเนื้อหาวิชาของบทเรียนนั้นๆ
โรงเรียนมัธยมไฮโซเบตง เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเมือง มีความพร้อมทางด้านสื่อ เทคโนโลยี มีห้องคอมพิวเตอร์ มีระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง แต่ครูมีไม่เพียงพอเนื่องจากย้ายหนีเหตุการณ์ความไม่สงบ
การเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็นหลัก ซึ่งเป็นการนำเอาสื่อการเรียนการสอน
ที่เป็นเทคโนโลยี มาช่วยสนับสนุนการเรียนการสอน ให้เกิดการเรียนรู้
การสืบค้นข้อมูล และเชื่อมโยงเครือข่าย ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกสถานที่และทุกเวลา
การจัดการเรียนการสอนลักษณะนี้ มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ การเรียนการสอนผ่านเว็บ
(Web-based Instruction) การฝึกอบรมผ่านเว็บ
(Web-based Training) การเรียนการสอนผ่านเวิล์ดไวด์เว็บ (www-based
Instruction) การสอนผ่านสื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning)
การสืบค้นข้อมูล (Search Engine) ใช้วิธีการสืบค้นข้อมูล เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ประกอบในการทำเอกสารรายงานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นำระบบอินเทอร์เน็ต เข้ามาใช้ในการศึกษากัน ซึ่งมีประโยชน์ในด้านการเรียนการสอนเป็นอย่างมาก
การสืบค้นข้อมูล (Search Engine) ใช้วิธีการสืบค้นข้อมูล เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ประกอบในการทำเอกสารรายงานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นำระบบอินเทอร์เน็ต เข้ามาใช้ในการศึกษากัน ซึ่งมีประโยชน์ในด้านการเรียนการสอนเป็นอย่างมาก
สามารถเลือกใช้ระบบนี้ในการสอนนักเรียนในห้องคอมพิวเตอร์ ที่มีความพร้อมของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ
แต่ครูไม่เพียงพอ จะทำให้นักเรียนได้เรียนอย่างทั่วถึงทุกคน
เป็นการแก้ปัญหาในกรณีครูไม่เพียงพอ และยังเป็นการให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียน เป็นการสร้างโอกาสให้แก่ผู้เรียนเข้าถึงแหล่งข้อมูล
แหล่งความรู้ได้มากและสะดวกขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น